22 มีนาคม “วันอนุรักษ์น้ำโลก” ส่วนสำคัญของชีวิตมนุษย์

องค์การสหประชาชาติได้ตระหนักถึงปัญหาการขาดแคลนน้ำที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น และอาจก่อให้เกิดปัญหาการแย่งชิงน้ำขึ้นในอนาคต โดยในการประชุมสหประชาชาติ ว่าด้วยเรื่องสิ่งแวดล้อมและการพัฒนา ณ รัฐรีโอเดจาเนโร (Rio de Janeiro) ประเทศบลาซิล ปี ค.ศ.1992 สหประชาชาติได้ประกาศให้วันที่ 22 มีนาคม ของทุกปีเป็น “วันอนุรักษ์น้ำโลก” หรือ “World Water Day” เพื่อระลึกถึงความสำคัญของน้ำคำพูดจาก ปั่นสล็อตแตกทุกเกม

21 มีนาคม “วันป่าไม้สากล” อนุรักษ์ผืนป่าเพื่อสุขภาพที่ดีของมนุษยชาติ

20 มีนาคม “วันความสุขสากล” ร่วมตระหนักความสุขเป็นสิ่งที่ทุกคนควรได้รับ

โดยในปัจจุบันถึงแม้ว่าโลกของเราจะพื้นที่เป็นน้ำอยู่ถึง 2 ใน 3 ของทั้งหมด แต่ส่วนใหญ่เป็นน้ำเค็มที่พบได้ในทะเลและมหาสมุทร คิดเป็น 97.5% ส่วนอีก 2.5% เป็นน้ำจืดซึ่งส่วนใหญ่ที่เป็นน้ำแข็งบริเวณแอนตาร์กติกาและกรีนแลนด์ รวมถึงน้ำใต้ดินที่ไม่สามารถนำมาใช้ได้

แหล่งน้ำจืดที่มนุษย์นำใช้อุปโภค บริโภคจึงเป็นแหล่งน้ำที่มาจาก ทะเลสาป แม่น้ำ ลำธาร รวมไปถึงอ่างเก็บน้ำต่างๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้น ซึ่งมีจำนวนเพียง 0.26% ของน้ำจืดที่มีอยู่ทั้งหมด และน้ำจืดในบริเวณดังกล่าว ยังมีส่วนที่ปนเปื้อนและมีสารพิษ ต้องทำการบำบัดก่อนนำมาใช้อีกด้วย

โดยในปัจจุบันมีประชาชนกว่า 1,400 ล้านคน ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำสะอาดมาใช้อุปโภค บริโภค ทำให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพและเป็นโรคมากมาย เช่น โรคอหิวาตกโรค ท้องร่วง ไข้รากสาดน้อย และโรคพยาธิต่าง ๆ เพราะโรคเหล่านี้มาจากการบริโภคน้ำที่ไม่สะอาด และอาจส่งผลแย่ถึงการเสียชีวิตเลยทีเดียว

ด้วยเหตุนี้องค์การสหประชาชาติจึงได้จัดตั้ง “วันอนุรักษ์น้ำโลก” ขึ้นมา เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญในการใช้น้ำในการอุปโภคและบริโภคอย่างประหยัดและคุ้มค่าที่สุด โดยในปีนี้องค์การสหประชาชาติได้กำหนดธีมไว้ว่า “ACCELERATING CHANGE” หรือ “เร่งเปลี่ยนแปลง” เพื่อแก้ไขวิกฤตน้ำและสุขอนามัย ที่จะผลกระทบต่อเราทุกคน เราจึงต้องการให้ทุกคนเริ่มลงมือกันตั้งแต่ตอนนี้!

ในวันสำคัญนี้ เราสามารถมีส่วนร่วมง่ายๆ คือ

  • ไม่เปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้ขณะทำธุระต่างๆ เช่น ล้างหน้า แปรงฟัน โกนหนวด ล้างรถฯ
  • ใช้ฝักบัวรดน้ำต้นไม้แทนการใช้สายยางต่อจากก๊อกน้ำโดยตรง
  • การใช้น้ำอย่างประหยัด เช่น
    • การอาบน้ำ : เลือกใช้ฝักบัว และปิดฝักบัวขณะถูสบู่ จะใช้น้ำเพียง 30 ลิตร หากไม่เปิดจะใช้น้ำถึง 90 ลิตร ขณะการใช้อ่างอาบน้ำจะใช้น้ำ 110-3624 ลิตร
    • การโกนหนวด : ใช้กระดาษเช็ดก่อน ตามด้วยการใช้น้ำจากแก้วมาล้าง และล้างมีดโกนหนวดด้วยการจุ่มล้างในแก้ว จะประหยัดกว่าล้างโดยตรงจากก๊อก
    • การแปรงฟัน : แนะนำให้ใช้แก้ว เพราะการแปรงฟันโดยใช้แก้ว จะใช้น้ำเพียง 0.51 ลิตร การปล่อยให้น้ำไหล จากก๊อกตลอดการ แปรงฟัน จะใช้น้ำถึง 20-30 ลิตรต่อครั้ง
    • การซักผ้า : ไม่ควรเปิดน้ำทิ้งไว้ตลอดเวลา จะเสียน้ำถึง 9 ลิตร/นาที ควรรวบรวมผ้าให้ได้ มากพอต่อการซักแต่ละครั้ง ทั้งการซักด้วยมือและเครื่องซักผ้า
    • การล้างถ้วยชามภาชนะ : ให้ใช้กระดาษเช็ดคราบสกปรกออกก่อน แล้วล้างพร้อมกันในอ่างน้ำ จะประหยัดเวลาประหยัดน้ำ และให้ความสะอาดมากกว่าล้างจากก๊อกโดยตรง ซึ่งจะสิ้นเปลืองน้ำ 9 ลิตร/นาที
    • การล้างผักผลไม้ : ใช้ภาชนะรองน้ำเท่าที่จำเป็น ล้างผัก ผลไม้ ได้สะอาดและประหยัดกว่าเปิดล้างจากก๊อกโดยตรง ถ้าเป็น ภาชนะที่ยกย้ายได้ ยังนำน้ำไปรดต้นไม้ได้ด้วย
    • การเช็ดพื้น : ควรใช้ภาชนะรองน้ำและซักล้างอุปกรณ์ใน ภาชนะก่อนที่จะนำไปเช็ดถู จะใช้น้ำน้อยกว่า การใช้สายยางฉีดล้างทำ ความสะอาดพื้นโดยตรง
    • การรดน้ำต้นไม้ : ควรใช้ฝักบัวรดน้ำต้นไม้แทนการใช้ สายยางต่อจากก๊อกน้ำโดยตรง หากเป็นพื้นที่บริเวณกว้าง ก็ควรใช้ สปริงเกลอร์ หรือใช้น้ำที่เหลือจากกิจกรรมอื่นมารดต้นไม้ ก็จะช่วย ประหยัดน้ำลงได้
    • การล้างรถ : ควรรองน้ำใส่ภาชนะ เช่น ถังน้ำ แล้วใช้ผ้าหรือ เครื่องมือล้างรถจุ่มน้ำลงในถัง เพื่อเช็ดทำความสะอาดแทนการ ใช้สายยางฉีดน้ำโดยตรง ซึ่งจะเสียน้ำเป็นปริมาณมากถึง 150-3624 ลิตร/ครั้ง หากสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นการใช้น้ำที่ควรใช้จริง อย่างถูกวิธี ไม่เปิดน้ำทิ้งระหว่างการใช้น้ำหรือปล่อยให้น้ำล้น จะสามารถลดการใช้น้ำได้ถึง 20-50 % ทีเดียว
  • หมั่นตรวจสอบและอุดจุดรั่วไหลของน้ำในบ้านอย่างสม่ำเสมอผ่านการตรวจจาก มิเตอร์น้ำ โถสุขภัณฑ์ ปั๊มน้ำ ก๊อกน้ำและท่อน้ำ เป็นต้น เพราะความเสื่อมโทรมชำรุดของอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้าน ก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้น้ำถูกทิ้งไปอย่างไร้ประโยชน์ ซึ่งอาจมีการสูญเสียน้ำไปมากถึง 75 – 387 ลิตรเลยทีเดียว โดยสามารถตรวจสอบได้ดังนี้
    • ปิดก๊อกน้ำทุกจุดในอาคาร สังเกตดูหน้าปัดมาตรวัดน้ำ หากมีการเคลื่อนไหวของตัวเลข แสดงว่ามีการแตกรั่วของท่อและอุปกรณ์เกิดขึ้น
    • ตรวจดูก๊อกน้ำ ฝักบัว เครื่องซักผ้า ทุกตัว หากพบว่า เมื่อปิด สนิทไม่มีการใช้น้ำแต่ยังมีน้ำรั่วซึมออกมา ให้รีบทำการซ่อมแซมทันที
    • ใส่สารย้อมผ้าลงในถังพักน้ำของโถชักโครก แล้วสังเกตดู หากมีน้ำสีย้อมผ้าไหลลงโถชักโครก แสดงว่ามีปัญหาการรั่วไหลของ ตัวปิด-เปิดน้ำชักโครก ควรรีบทำการซ่อมแซมทันที
    • หากพบว่ามีน้ำเปียกนองอยู่ตลอดเวลาที่พื้นข้างอาคาร หรือมีน้ำผุดให้เห็น แสดงว่ามีการแตกรั่ว ของท่อประปาในบริเวณนั้น

ขอบคุณข้อมูลจาก : เทศบาลนนทบุรี, มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา,สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศและกรมส่งเสริมคุณภาพและสิ่งแวดล้อม

15 มีนาคม “วันสิทธิผู้บริโภคสากล” เปิดประวัติและสิทธิที่เราควรจะได้รับ

13 มีนาคม "วันช้างไทย" ร่วมอนุรักษ์สัตว์คู่บ้านคู่เมือง

 22 มีนาคม “วันอนุรักษ์น้ำโลก” ส่วนสำคัญของชีวิตมนุษย์

You May Also Like

More From Author